เทคนิคจัดบ้านสวย สำหรับคนรักสัตว์

บ้านสวย กับสัตว์เลี้ยง เป็นของคู่กันได้จริงๆ หรอ ?  หลาย ๆ คนที่มีสัตว์เลี้ยงและกำลังออกแบบภายใน หรือเริ่มต้นที่จะรีโนเวทบ้านใหม่ มักเริ่มกังวลใจกับคำถามนี้ สำหรับคำตอบนั้น….. บอกตรง ๆ ว่าเห็นที่จะต้องทำใจ
บ้านสวย เฟอร์นิเจอร์หรู แบบที่เห็นในโบรชัวร์ IKEA มีได้แน่นอนนะคะ แต่คุณต้องไม่มีสัตว์เลี้ยงนะคะ
เพราะถ้ามีน้องหมาหรือเจ้าเหมียวสักตัวเป็นเพื่อนคู่ใจ แชร์ห้องแชร์บ้านอยู่ด้วยกันแล้วล่ะก็ ยังไงเสีย ความซุกซน หรือนิสัยของเด็ก ๆ ย่อมทำให้บ้านไม่สามารถดูดี สวยเหมือนเป๊ะอย่างในโชว์รูมได้ 100% อย่างแน่นอน เพราะอย่างน้อย ๆ ขนของเด็ก ๆ ก็ต้องมีปลิวว่อนติดโซฟา ติดพรมกันอยู่บ้างแล้วล่ะ

อย่างไรก็ดี ในเมื่อเจ้าเหมียวก็รัก เจ้าหมาก็หวง อีกทางก็อยากมีบ้านสวย ๆ เอาเป็นว่า แม้สวยไม่ได้เต็ม 100% แบบใครเขา ขอใช้เทคนิคตกแต่งบ้านที่กำลังจะพูดถึงในบทความนี้ เสกบ้านหลังน้อยที่มีเพื่อนคู่ใจสี่ขา ให้ดูดีได้สัก 90% ก็เพียงพอแล้วค่ะ ว่าแล้ว ลองมาดูเทคนิคน่ารู้ เกี่ยวกับการออกแบบภายใน แต่งบ้าน เลือกเฟอร์นิเจอร์ สำหรับบ้านคุณกันเลย

  1. เทคนิคเลือกพรม
    พรมสวย ๆ ช่วยสร้างโซนนิ่งให้มุมห้อง อยากได้ความโดดเด่น ให้เติมพรมเข้าไป
    เราเข้าใจแบบนี้กันมาตลอด แต่ทว่า ถ้าบ้านคุณมีน้องแมวน้องหมา โดยเฉพาะประเภทที่ขนหลุดร่วงง่ายแล้วล่ะก็ พรมไม่น่าจะเป็นคำตอบที่ใช่อีกต่อไป

    เทคนิคที่ต้องบอกสำหรับการเลือกพรม อันดับแรกเลย คือให้เลี่ยงใช้พรมนั่นเอง เพราะนอกจากจะเป็นที่กักเก็บฝุ่นที่เกิดจากสัตว์เลี้ยงแล้ว บรรดาขนต่าง ๆ ก็จะชอบลอยมาติดบริเวณพรมเยอะที่สุด

    ทั้งนี้ หากคุณยังอยากเพิ่มความโดดเด่น เล่นสีให้กับโซนของบ้าน แต่ถูกเราห้ามให้ใช้พรม เราก็ต้องขอแนะนำให้แก้ไข โดยการเลือกใช้ ของตกแต่งประเภทอื่นแทนค่ะ ซึ่งของตกแต่งที่พอใช้แทนพรมได้ ก็คือ ภาพวาดสีสวย อาจใช้แบบติดผนัง หรือตั้งพื้น ก็ช่วยเพิ่มมิติกับสีสรรให้กับมุมห้องตามแบบที่คุณต้องการได้แล้วโดยไม่ต้องคอยกังวลกับพรมบนพื้น

    อย่างไรก็ดี หากเลี่ยงไม่ได้ และจำเป็นต้องใช้พรมจริงๆ แล้วล่ะก็ เราก็ต้องแนะนำให้เลือกพรมที่ทำจากวัสดุทนทาน เหมาะแก่การซักล้างได้บ่อยครั้ง และควรมีน้ำหนักเบา เพื่อให้สามารถยกขึ้นดูดฝุ่น ทำความสะอาดได้บ่อย ๆ

  2. เทคนิคการเลือกพื้น
    เมื่อต้องแต่งบ้านใหม่ โดยเฉพาะบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง อีกข้อหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง คือการเลือกวัสดุสำหรับปูพื้นค่ะ โดยเทคนิคการเลือกที่ต้องแนะนำให้ คือ การใช้วัสดุแข็งแรง ที่ทนทานต่อรอยขีดขวนซึ่งอาจเกิดจากเล็บของน้องหมาน้องแมวที่เดินหรือวิ่งไปมาในบ้าน และควรเป็นวัสดุที่ทนทานต่อความชื้น ที่อาจเกิดจากการขับถ่าย หรือถ้วยชามอาหารน้ำของสัตว์เลี้ยง

    ทั้งนี้ วัสดุที่แนะนำให้ใช้จึงควรเป็นวัสดุแข็ง ประเภท พื้นไม้ หรือกระเบื้องยางนะคะ อย่างไรก็ดี วัสดุประเภทกระเบื้อง หรือพื้นปูน แม้จะช่วยให้มั่นใจได้แน่นอนว่าจะไร้รอยขีดข่วน ทว่าไม่ดีนักสำหรับสุขภาพของสัตว์เลี้ยง เนื่องจากอาจลื่นเกินไป ทำให้น้องหมาน้องแมวเกิดปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อ
    ข้อสะโพกค่ะ

  3. เทคนิคการเลือกโซฟา และเฟอร์นิเจอร์
    สำหรับการเลือกโซฟา และเฟอร์นิเจอร์ ในขั้นแรกนั้นเราก็ต้องแนะนำให้คุณสังเกตุนิสัย และพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงของตนเองดูก่อน ว่าน้อง ๆ ชอบแทะ เล่น หรือขีดข่วนวัสดุประเภทไหน

ถ้าน้องหมาชอบแทะไม้แล้วล่ะก็ ตัวเลือกที่เป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ โซฟาขาไม้ เป็นอันต้องตัดทิ้งไป

นอกจากนี้ ต้องแนะนำให้เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สีเดียวกับสีขนของสัตว์เลี้ยงของคุณ เพราะแม้ว่าคุณจะไม่ได้ยอมให้สัตว์เลี้ยงขึ้นบนโซฟาหรือเฟอร์นิเจอร์ได้ แต่ก็ต้องมีบ้างที่ขนของเด็ก ๆ นั้นจะหลุดร่วงและรอยมาติดโซฟา ถ้าเลือกสีที่ตัดกันไปเลย ทำให้เห็นขนติดชัด ก็จะดูน่ารำคาญตาค่ะ

  • เทคนิคแต่งบ้านสไตล์มินิมัล
    นอกจากจะกำลังฮิตอยู่ขณะนี้ เทคนิคการแต่งบ้านสไตล์มินิมัล ที่เน้นความเรียบง่าย ของน้อยชิ้น ทราบหรือไม่ว่า การแต่งบ้านสไตล์มินิมัล นั้นเหมาะมากที่จะใช้กับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่ทีเดียวเชียว เพราะบ้านที่โล่งสบาย ข้าวของน้อย แม้มีสัตว์เลี้ยงซุกซน ทว่าเมื่อข้าวของ เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น และเน้นสีโทนกลาง สีอ่อน อยู่แล้ว บ้านของคุณก็จะดูสะอาดอยู่เสมอ อีกทั้งยังง่ายต่อการทำความสะอาด เพราะยิ่งของน้อย มุมอับที่เป็นแหล่งซ่อนแอบของบรรดาก้อนขน หรือสิ่งสกปรก ก็ยิ่งน้อยตามลงไปด้วยค่ะ

  • เทคนิคดูแลบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง

สำหรับข้อสุดท้าย ก็ต้องขอพูดถึงเทคนิคการดูแลบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง หลายท่านอาจทราบดีอยู่แล้ว ยิ่งได้ดูแล หวีขนสัตว์เลี้ยงคุณมากเท่าไร สัตว์เลี้ยงก็จะยิ่งมีเนื้อตัวสะอาด ขนน้อยลงมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น นอกจากการสั่งสอนให้น้องหมาน้องแมวมีนิสัยดี เรียบร้อย รู้จักขับถ่ายเป็นที่ทางแล้วนั้น คุณยังต้องมีหน้าที่คอยหมั่นทำความสะอาด หวีขนของเด็ก ๆ อยู่บ่อย ๆ ให้ขนร่วงน้อยลง เพียงเท่านี้ คุณก็จะเป็นเจ้าของบ้านผู้รักสัตว์ที่มีบ้านหลังสวยที่แลดูสะอาดอยู่เสมอแล้วค่ะ

เทคนิคเหล่านี้สามารถนำไปใช้ได้กับการแต่งบ้านและคอนโด แต่สำหรับใครที่อยู่คอนโดและกำลังคิดอยากจะเลี้ยงน้องหมาน้องแมว อาจจะต้องเช็คกับทางนิติบุคคลอาคารชุดก่อนว่าอนุญาตให้มีสัตว์เลี้ยงได้หรือไม่ เพื่อจะได้ไม่ต้องมีปัญหากับทางคอนโดในภายหลัง